CCA คืออะไร

CCA ย่อมาจาก Cold Cranking Amp แปลตามตัว คือ กำลังสตาร์ทที่ปล่อยออกมาในที่อุณภูมิต่ำ (ตามมาตฐาน IEC อยู่ที่ -18 องศา เซลเซียส อ่านมาถึงตรง ท่านผู้อ่านคงสงสัยว่าทำไม เมืองไทยเมืองร้อนถึงต้องใช้ CCA ที่ทดสอบอุณภูมิติดลบ

ตืองี้ครับ การเดินทางของไฟฟ้า ยิ่งอุณภูมิต่ำยิ่ง มีค่าความต้านทานต่ำ หมายความว่า การทดสอบที่ต้องใช้อุณภูมิต่ำ เพราะ จะได้ลดตัวแปลด้านวัสดุเรื่องความต้านทาน

สรุปสั้นๆให้เข้าใจง่ายว่ามันคือ ค่ากำลังสตาร์ทของแบตเตอรี่รุ่นนั้นๆ

จะดู CCA ได้ที่ไหน

ปรกติ CCA จะเขียนไว้ที่ฉลากแบตเตอรี่ครับ จะอยุ่บนหม้อแบตด้านบนเป็นส่วนใหญ่ ไม่ก็อาจจะปรากฏบนใบสเปคที่ส่งทางร้าน หรือ ทางเว็บไซด์เพื่อให้เข้าดูได้ทุกท่าน แล้วถ้าไม่สามารถหาสเปค CCA ได้ให้ตีคร่าวๆได้ครับ ถ้าตามขนาดแบตเตอรี่ก็ประมาณนี้ โดยถ้าเป็นแบตเตอรี่เดิมน้ำแบบดั้งเดิม อาจหย่อนกว่านี้ได้บ้าง

B19 - 250
B24 - 300

D23 - 450
D26 - 450
D31 - 500

ประโยชน์ของการทราบ CCA

เราทราบ CCA เพื่อให้ทราบกำลังสตา์ท ของแบตเตอรี่รุ่นนั้นๆครับ เพื่อใช้เลือกแบตเตอรี่ให้เหมาะกับขนาดเครื่องยนต์ เช่น เครื่อง 2KD ของ Toyota Vigo เครื่องนี้ ใช้กำลังสตาร์ท ประมาณ 380-395 CCA โดยประมาณ แปลว่า ไม่ควรใช้ แบตเตอรี่ที่ CCA ที่ต่ำกว่านี้สัก 25-30% เป็นอย่างต่ำครับ ถ้าไม่ทราบว่าขนาดเครื่องยนต์ใช้กำลังสตาร์เท่าไร ให้ยึดลูกเดิมเป็นหลักได้ นอกจากนี้ใช้เทียบสเปคแบตเตอรี่ด้วยว่า ถ้าทุกอย่างเท่ากัน CCA รุ่น A สูง กว่า B รุ่น B มีโอกาสจะทนกว่ามากกว่าครับ (ในแบรนด์เดียวกัน)

ใช้เครื่องมืออะไรวัด

โดยทั่วไปใช้เครื่องตรวจสอบที่มีมาตรฐาน จะพอทราบได้ครับ เป็นเครื่องจำลองการสตาร์ทแบตเตอรี่ ไม่ใช่ โวลถ์มิเตอร์ นะครับ โดยเครื่องนี้จะปล่อยไฟผ่านเครื่องและวัดค่าออกมา คล้ายการสตาร์ทเครื่อง โดยเครื่องมีหลายราคา แต่จากประสปการณ์ใช้งาน ตั้งแค่เครื่องหลักพัน ยันเครื่องหลายหมื่น ถ้านั้นเป็นเครื่องที่มีมาตรฐาน เช่น มอก.ยุโรป (CE) หรือมาตรฐานอื่นๆที่เชื่อถือได้ จะวัดค่าออกมาได้ไม่ต่างกันนักครับ เรียกว่า ไม่มีนัยยะ ในเครื่องที่มีมาตรฐานการผลิตที่ดี ซึ่งการวัดค่า CCA โดยทั่วไปแล้วจะวัดโดยมาตรฐาน SAE แต่จะมีบางยี่ห้อใช้มาตรฐานอื่นๆเหมือนกัน ต้องอ่านดีๆหน่อย

CCA มากกว่า ทนกว่าใช่มั๊ย ?

Q : CCA มากกว่า ทนกว่าใช่มั๊ย

A : ไม่ใช่นะครับ แบตเตอรี่บางรุ่นมี CCA ที่ไม่สูง แต่มีความจุ(แอมป์) และแผ่นธาตุ เยอะ จะให้เห็นภาพชัดเลย ก็ เช่น แบตเตอรี่รถใหญ่ๆ ,6 ล้อ ,10ล้อ / N100 , N120 , N150 พวกนี้ก็มี CCA ที่ไม่มากแบบแบตเตอรี่ Hybrid หรือ แบตเตอรี่แห้ง ของรถกระบะ หรือ รถเก๋ง บางรุ่นด้วยครับ แต่ CCA ของตัวแบตเตอรี่มันลดยากกว่ามาก เช่น สตาร์ทไป 100 ครั้งอาจจะลด แค่ 10% แต่ ลูกเล็ก สตาร์ท 100 ครั้ง อาจหายไป 20% ประมาณนี้ครับ

ทำไมสมัยก่อนไม่พูดถึง CCA เท่าไร?

สาเหตุ ที่ CCA มาพูดถึงในหลายปีล่า มากกว่าสมัยก่อน เพราะ อัตรคาส่วนการขายครับ แบตเตอรี่รถยนต์สมัยก่อน

สัดส่วนขาย แบตเติมน้ำแบบดั้งเดิม 70%++ ได้ แต่ในปัจจุบันกลับกันครับ แบตเตอรี่เติมน้ำน่าจะขายอยู่ราวๆ 40%--
ส่วน 60%++ เป็นตระกูลแบตเตอรี่แห้ง ซึ่ง CCA จะนิยมใช้วัดแบตเตอรี่แห้งมากกว่า

ถ้าจะให้จัดระดับความสำคัญ

1.CCA เพียงพอ สตาร์ทเครื่อง

2.แอมป์

3.จำนวนแผ่นธาตุ

4.ส่วน CCA ที่มากกว่า ดีครับ แต่ไม่ใช่จุดหลักๆที่บอกว่าทนกว่าแน่ๆ ให้ดูภาพรวมประกอบๆ

หากมีอะไรสงสัย หรือต้องการใช้ทางร้านช่วย สามารถติดต่อสอบถามมาได้ที่ Line@ หรือ โทรหา จาก เบอร์/ไลน์ ข้างล่างได้เลยครับ