top of page

- TIP ในการเลือกแบตเตอรี่รถยนต์ ที่คนขายไม่ค่อยอยากบอก

สวัสดีครับวันนี้มาในหัวข้อที่ ล่อเป้า พอควรเลย เพราะเป็นสิ่งที่คนขายไม่ค่อยบอกจริงๆ ในการเลือกแบตเตอรี่ 1 ลูกนั้นถ้ามองในมุมมองลูกค้า

100% เราจะมองว่า อยากซื้อให้ได้ในราคาที่ถูกที่สุด และ ใช้ได้ทนที่สุดถูกต้องมัียครับ ?  บทความนี้เราจะมองแบบคนซื้อ ให้ได้มากที่สุด แล้วเรามาเริ่มกันเลย

การเลือกแบตเบื้องต้น

ถ้าได้อ่านบทความก่อนหน้านี้จะทราบวง่าผมเขียนวิธีเลือกเบื้องต้นใน บทความประเภทแบตเตอรี่

สิ่งแรกที่ต้องคิด คือ

1.แบตเตอรี่นั่นมีกำลังสตาร์ทพอสำหรับรถรุ่นนั้นๆมั๊ย ซึ่งถ้าพอ และเกินมา ถือว่าใช้ได้

2.แอมป์ พอสำหรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในของมันมัีย จะให้ดีก็เทียบลูกที่ติดรถมากไปเลยว่าใกล้เคียงกันรึเปล่า

3.ส่วนเพิ่มเติมแนะนำให้ดูแผ่นธาตุมากกว่า หมาย ถึงมันมีใส้มากกว่าโอกาสมันจะทนมากกว่า

แต่ว่านั่นเป็นการเลือกให้ถูกประเภทครับ ซึ่งเป็นวิธีที่ควรทำ แต่ถ้าอยากได้มากกว่าต้องอ่านต่อในนี้

Tip ขั้น กว่า

ถ้าอยากเลือกแบตเตอรี่ที่ทน เลือกยังไง ยี่ห้อไหนครับ อันนี้วัดจากประสปการณ์ ที่เจอแบตเตอรี่เก่าส่วนตัวเลยนะครับอาจไม่มีตัวเลขยืนยัน ยี่ห้อมีผลน้อยครับ ถ้าเป็นยี่ห้อตลาด ที่ได้มาตรฐานไม่ใช่ยี่ห้อเน้นขายถูก ส่วนใหญ่จะมีความทนที่ไล่เลี่ยกัน อาจมีเหลื่อมๆบ้าง แต่สิ่งที่คนซื้อโฟกัสคือ ยี่ห้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะการได้ยี่ห้อใหญ่ มีหลักแหล่งแน่นอน ประกันจะมีความแน่นอน มากกว่าตามไปด้วย คนตั้งโรงงานเขาต้องห่วงชื่อเสียงกว่าคนนำเข้ามาทำตลาดใช่มั๊ย ? นั่นหล่ะครับ (แม้จะมีบางยี่ห้อที่ตั้งโรงงานแต่เครมไม่ง่ายนัก ต้องให้ร้านช่วยไฟท์ให้ก็จริง ^^"อันนี้เราจะพยายามให้ถึงที่สุด และส่วนใหญ่ร้านจะเครมให้ก่อนโรงงานอีก)

สิ่งที่ต้องดูที่ตามมาคือสเปคครับ แบบที่พูดไปขั้นต้น แต่ถ้าเราจะเอาความทนเป็นหลัก ตัด CCA ออกไปได้เลยครับ เพราะ แบตเตอรี่ที่ทนที่สุดในพิกัดเดียวกันคือ แบตเตอรี่แบบ เติมน้ำดั้งเดิม ซึ่งเป็นรุ่นที่ร้านแบตเตอรี่เริ่ามไม่ค่อยอยากขายนะครับ เพราะแบตแห้ง เตรียมง่ายกว่า จับผ่านเครื่องเช็คไฟ ไฟเต็มก็เปลี่ยนเลยแต่ถ้าแบตเติมน้ำ จะให้เตรียมแบบเต็มที่จริงๆ ต้องใช้ เวลาล่วงหน้า 1 คืน เพื่อให้แผ่นธาตุแช่นอยู่ในกรด และทำปฏิกริยากันจนสมบูรญ์ ก่อนชาร์จไฟให้เต็ม และส่งถึงมือ (พูดตามตรงร้านส่วนใหญ่มักจะเร่งเวลาในการแช่แผ่นธาตุแม้จะไม่เห้นผลมากนัก แต่บริษัทแบตเตอรี่เวลาเขาตรวจเขาจะเพ่งเล็งครับ) หมายเหตุ ร้าน JR ทำตามขั้นตอนนี้นะ ^^ ยกเว้นกรณีเร่งด่วนจะทิ้งไว้ที่เวลาขั้นต่ำ ครึ่งชม ก่อนชาร์จให้เต็ม

นอกจากการเตรียมการแล้ว ให้เลือกยี่ห้อที่เราไว้ใจได้ระดับนึง แล้วให้มองดูสเปคครับ แบตเตอรี่ น้ำที่ดี ต้องแผ่นะาตุ เยอะ แอมป์เยอะ ซึ่งพวกนี้ราคาจะสูงตาม ถ้าไม่อยากเปลี่ยนบ่อยก้ทนดีครับ แต่ถามว่าซื้อ NS100 แบตเติมน้ำตัวมาตรฐานไปจะทนมัีย มันก้มีโอกาสทนครับ เช่นเอาไปใส่กระบะ Isuzu TFR ที่ระบบไฟไม่เยอะเนี่ย 3 ปี++ เนี่ยหาง่าย 

พอได้แบตที่ถูกใจมาแล้วถ้าเราเป็นคนใช้รถประจำๆ ให้เติมน้ำกลั่น ประจำถ้าสามารถเติมได้นะครับ น้ำกลั่นจะเข้าไปลดความเป็นกรดในตัวแบตทำมให้ มันทำปฏิกริยากับแผ่นธาตุน้อยลง พอมันทำปฏิกริยาน้อยก็จะเก็บได้นาน ~! แล้วทำไม ร้านไม่แนะนำแบบนี้หล่ะ เพราะถ้า เติมน้ำกลั่นมากไปมันจะจางครับ กำลังสตาร์ทหาย ถ้าไม่ได้ใช้งานประจำอาจต้องยกกลับมาเข้าตู้ชาร์จใหม่ (ย้ำว่าถ้าไม่ได้ใช้งานประจำน่ะนะ)

แต่ให้ระวังไว้ว่า อย่าเติมจนล้นไม่งั้นจะเป็นเกลือ ที่ติดขั้วแบต มีดอกาสทำขั้วเสีย หรือสายไฟภายในเสียได้

พูดถึงรื่องขั้ว การนำจารบี ไปป้ายก่อน ไม่เป็นผลดีนะครับ จรบี ค่าความต้านทานไฟฟ้าในตัว การไปป้ายไว้ มันทำให้ไฟเดินไม่สะดวก จาก ตะกั่ว เจอ ตะกั่ว นี่ต้อง ตะกั่ว แล้วเจอ จารบี ก่อน ผ่านตะกัน กลายเป็นว่ามีส่วนในการทำให้แบตเสียง่ายขึ้น

 

Tip อื่นๆหล่ะ

นอกจากนี้ยังมี Tip ว่าด้วย การไม่จอดแดด หรือปิดอุปกรณ์ไฟก่อนบิดกุญแจจอดรถ แต่ส่วนตัวมองว่า มันจะทำให้ปวดหัวเอามากกว่า รถบางรุ่นปิดพวกระบบไฟไม่ได้ก่อนดับเครื่อง บางที่ทำงานก็หาที่จอดร่มยาก เอาเป็นว่า ถ้าจะซีเรียสขนาดนี้ผมแนะนำให้พยายามประหยัดน้ำมัน น่าจะช่วยค่าแบตเตอรี่ได้มากกว่า ^^ อะไรที่มันมากไปจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตมันก็ไม่ดีนะครับ

ทนที่สุดที่เราเคยขาย ?

แบตเตอรี่ที่ทนที่สุดที่ร้านเคยขาย น่าจะเป็น FB F3000 ,GS GT150(ตัวเก่า) ใส่รถ กระบะ isuzu  ได้สัก 6-7 ปีครับ(อาจะมีมากกว่านี้ก้คือ คืออันนี้เท่าที่สังเกตุเจอ) ส่วนถ้าแบตแห้ง ก็ FB 65D23 SMF (รุ่นฝา 3 ชั้นไม่มีผลิตแล้ว) ใน มิตซูบิชิ มิราจ ตัวนั้นราวๆ 5 ปี เศษๆ จะเห็นว่า แบตเตอรี่ ที่ทนส่วนใหญ่มัน over spec นะครับ และมันคือส่วนน้อยมากๆ เคยมีระดับประเทศของ บ.แบตเตอรี่ก็ได้ราวๆ 8ปี ++ ครับ ซึ่งเอาจริงอย่าลืมว่า มันมีปัจจัยภายนอกด้วย

แต่อย่างว่าทุกอย่างเป็นสถิติ มี Max ก็ต้องมี Min

ทุกอย่างที่บอกมาเป็นวิทยาศาสตร์ + สถิติครับ แต่สิ่งที่ควบคุมไม่ได้เลยคือปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้อีก เอาเป็นว่า อันนี้คือดุในส่วนที่เราคุมได้ ที่เหลือ บางทีผมก็คิดว่า คงขึ้นกับดวงละครับ เคยมีลูกค้า คนนึง ซื้อ ยี่ห้อ A ไป แกเจอเครม 2 ลูก ติดกันเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยี่ห้อนี้ขายไปแทบไม่มีเครมเลย เรียกว่า <0.1% เลยหล่ะครับ ผมเลยบอกลูกค้าคนนั้นว่า "เฮีย เปลี่ยนยี่ห้อดูมัียครับ" หลังจากนั้น ปัญหาก็จบ ..... บางทีอะไรมันไม่มีเหตุผลก็เกิดขึ้นแบบนี้หล่ะ

หากมีอะไรสงสัย ก็สามารถ Line ถาม หรือ โทรติดต่อ 089-7129203 ได้ครับ ทีมงาน JR battery ยินดีบริการครับผม ^^

bottom of page